จังหวัดปทุมธานี
Pathumthani
วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ถือได้ว่าเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ ที่เป็นการสื่อสารความรู้ให้กับผู้เข้าชม ให้เข้าใจสาระทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้โดยง่าย และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองหก ในบริเวณเทคโนธานี โดยแยกจากถนนสายรังสิต-นครนายก ไปประมาณ 4 กิโลเมตร สามารถโดยสารรถประจำทางสาย ปอ.1155 สายรังสิต-ฟิวเจอร์พาร์ค-พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
ตัวอาคารโดดเด่นด้วยการออกแบบเป็นทรงลูกบาศก์ 3 ลูกเกาะเกี่ยวกันอย่างสมดุล ใช้มุมแหลมของแต่ละลูกบาศก์รับน้ำหนัก มีความสูง 42 เมตร กว้าง 60 เมตร ภายในแบ่งออกเป็น 6 ชั้น จัดแสดงนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ที่สามารถสร้างความเพลิดเพลินไปพร้อมกับการเรียนรู้ ชั้นที่ 1 เป็นส่วนต้อนรับและแนะนำการเข้าชม มีการจัดแสดงภาพ และผลงานนักวิทยาศาสตร์ การจำลองลูกโลกขนาดใหญ่ชั้นที่ 2 จัดแสดงหุ่นจำลองลูซี่ ที่ทำจากฟอสซิล เป็นรูปเหมือนที่แสดงถึงการกำเนิดมนุษย์คนแรก ยานอวกาศ และมนุษย์อวกาศจำลอง ชั้นที่ 3 เป็นอุโมงค์เงา และเรือนไม้ จัดแสดงในเรื่องของแสง ชั้นที่ 4 จัดแสดงพื้นฐาน และเทคโนโลยีในประเทศไทยลักษณะทางภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา นิเวศวิทยา การผลิตด้านการเกษตรและเทคโนโลยีการก่อสร้าง ชั้นที่ 5 คือแสดงการแยกแยะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และ ชั้นที่ 6 แสดงถึงภูมิปัญญาไทย ผ่านสิ่งประดิษฐ์ หัตถกรรม ของเล่น ที่สามารถอธิบายและพิสูจน์ได้ด้วยหลักวิทยาศาสตร์สากล
นอกจากนี้แล้วยังมี พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ที่จัดแสดงนิทรรศการทางธรรมชาติ และพิพิธภัณฑ์เทคโนโลสารสนเทศ เปิดให้ชมทุกวันอังคาร-วันศุกร์ เวลา 09.00–16.00 น วันเสาร์-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00–17.00 น. ปิดวันจันทร์
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ตั้งอยู่ในเนื้อที่ 62 ไร่ ตำบลรังสิต ถนนรังสิต-นครนายก อำเภอธัญบุรี ระหว่างคลอง 5 และคลอง 6 เข้าทางเดียวกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล โดยแยกจากถนนสายรังสิต-นครนายกเข้าไป 4 กิโลเมตร ก่อตั้งเมื่อปี 2537 เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียน นักศึกษา เยาวชนและประชาชนทั่วไป ภายในอาคารมีพื้นที่ใช้สอย 35,000 ตารางเมตร แบ่งพื้นที่ออกเป็น ห้องนิทรรศการถาวร ห้องท้องฟ้าจำลอง ห้องประชุมสัมมนาห้องปฎิบัติการวิทยาศาสตร์
นิทรรศการภายในอาคาร
เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เช่น นิทรรศการ ประทีปแห่งแผ่นดิน ดาราศาสตร์และอวกาศ วิทยาศาสตร์พื้นฐาน เมืองเด็กแดนวิทยาศาสตร์มหัศจรรย์เปิดโลกสิ่งแวดล้อม เรียนรู้มหัศจรรย์แห่งชีวิตโลกล้านปี โลกดาวเคราะห์ กีฬากับวิทยาศาสตร์
นิทรรศการภายในอาคาร
เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เช่น นิทรรศการ ประทีปแห่งแผ่นดิน ดาราศาสตร์และอวกาศ วิทยาศาสตร์พื้นฐาน เมืองเด็กแดนวิทยาศาสตร์มหัศจรรย์เปิดโลกสิ่งแวดล้อม เรียนรู้มหัศจรรย์แห่งชีวิตโลกล้านปี โลกดาวเคราะห์ กีฬากับวิทยาศาสตร์
นิทรรศการนอกอาคาร
อุทยานวิทยาศาสตร์ เช่น สวนสมุนไพร สวนวิทยาศาสตร์ สวนเกษตรธรรมชาติ นาฬิกาแดด ไม้ในวรรณคดี สวนธรณีวิทยา
ท้องฟ้าจำลอง รังสิต
ภายในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต มีท้องฟ้าจำลองแห่งใหม่ ห้องฉายดาวเป็นแบบโดมเอียง จุที่นั่งได้ 160 ที่นั่ง พร้อมทั้งสามารถฉาย ภาพยนต์แบบ IMAX ได้ ซึ่งถือเป็นท้องฟ้าจำลองที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อุทยานวิทยาศาสตร์ เช่น สวนสมุนไพร สวนวิทยาศาสตร์ สวนเกษตรธรรมชาติ นาฬิกาแดด ไม้ในวรรณคดี สวนธรณีวิทยา
ท้องฟ้าจำลอง รังสิต
ภายในศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต มีท้องฟ้าจำลองแห่งใหม่ ห้องฉายดาวเป็นแบบโดมเอียง จุที่นั่งได้ 160 ที่นั่ง พร้อมทั้งสามารถฉาย ภาพยนต์แบบ IMAX ได้ ซึ่งถือเป็นท้องฟ้าจำลองที่ทันสมัยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หอดูดาว
สร้างเป็นหอดูดาวแบบโดม ติดตั้งกลองขนาด 16 นิ้ว รุ่น LX 200 พร้อม CCD นอกจากนี้ยังมีกล้องภาคสนามอื่นอีกเช่นกล้องนิวโทเนียน 16 นิ้ว และกล้องหักเหแสง ขนาด 4 นิ้ว อีก 3 ตัว เพื่อกิจกรรมดาราศาสตร์ ที่ให้บริการแก่บุคคลทั่วไป
สร้างเป็นหอดูดาวแบบโดม ติดตั้งกลองขนาด 16 นิ้ว รุ่น LX 200 พร้อม CCD นอกจากนี้ยังมีกล้องภาคสนามอื่นอีกเช่นกล้องนิวโทเนียน 16 นิ้ว และกล้องหักเหแสง ขนาด 4 นิ้ว อีก 3 ตัว เพื่อกิจกรรมดาราศาสตร์ ที่ให้บริการแก่บุคคลทั่วไป
กิจกรรม
มีหลากหลายกิจกรรม เช่น ค่ายวิทยาศาสตร์ ทั้งค่ายไป-กลับ ค่ายแรม ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ การประชุมอบรม สัมมนาทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
มีหลากหลายกิจกรรม เช่น ค่ายวิทยาศาสตร์ ทั้งค่ายไป-กลับ ค่ายแรม ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ การประชุมอบรม สัมมนาทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
หออัครศิลปิน
หออัครศิลปิน ตั้งอยู่ตำบลคลองห้า อยู่เลยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ไปอีกราว 3 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นเลิศในศิลปะทั้งมวล เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่พสกนิกรและศิลปินทั่วโลก เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานด้านศิลปและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของพระองค์ 9 ด้าน คือ ด้านหัตถกรรม ด้านวาทศิลป์ ด้านวรรณศิลป์ ด้านจิตรกรรม ด้านถ่ายภาพ ด้านภูมิสถาปัตยกรรม ด้านประติมากรรม ด้านคีตศิลป์ และด้านการพระราชนิพนธ์เพลง นอกจากนี้ ยังเป็นที่จัดแสดงประวัติและผลงานอันล้ำค่าของศิลปินแห่งชาติทุกท่านในรูปแบบนิทรรศการภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัยและถ่ายทอดผลงานและภูมิปัญญาของศิลปินแห่งชาติทั้ง 4 สาขา คือ สาขาวรรณศิลป์ ศิลปการแสดง ทัศนศิลป์ และสถาปัตยกรรม
ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ในวันจันทร์-วันศุกร์ 08.30-16.00 น. และในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ควรทำหนังสือแจ้งล่วงหน้าก่อนเข้าชม
ตลาดร้อยปีระแหง
ตลาดร้อยปีระแหง ตั้งอยู่ที่ชายคลองระแหงติดต่อคลองพระอุคม ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว ตลาดทั้งสองฝั่งคลองปลูกสร้างด้วยไม้ เป็นห้องแถวติดต่อกันยาว สมัยนั้นผู้คนจำนวนมากต้องสัญจรกันทางเรือและทางรถไฟ โดยมีทางรถไฟสายแรก คือ สายตลาดระแหง-บางบัวทอง มาสิ้นสุดที่โรงเรียนวรพงษ์ หมู่ 4 ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว ต่อมาการคมนาคมเจริญขึ้น มีถนนผ่านหน้าอำเภอลาดหลุมแก้ว ผู้คนก็หันมาสัญจรทางรถยนต์กัน กิจกรรมรถไฟก็ล้มเลิกไป แต่ยังคงเหลือตลาดเอาไว้ให้เป็นอนุสรณ์อยู่จนทุกวันนี้
ทางอำเภอลาดหลุมแก้วร่วมกับเทศบาลตำบลระแหงและชาวตลาดระแหง ได้ร่วมกันอนุรักษ์ตลาดเก่าที่ยังรักษาชุมชนเดิมไว้ได้ โดยจัดเป็นตลาดน้ำเหมือนในอดีต เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของจังหวัดปทุมธานี ในส่วนบริเวณคลองระแหงหน้าลานวัดบัวแก้วเกษร ได้มีการจัดทำสถานที่เลี้ยงปลาบริเวณคลองระแหง โดยเก็บกักรักษาระดับน้ำให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ อีกจุดหนึ่งที่ศาลาริมน้ำข้างห้องสมุด จัดทำเป็นท่าเรือรับ-ส่งนักท่องเที่ยว และจำหน่ายสินค้าในทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เช่น ขนมพื้นบ้าน ขนมไทยโบราณ ผลิตผลทางการเกษตร ตั้งแต่สะพานคลองระแหงจะทำทางเดินเชื่อมต่อกันระหว่างลานวัดกับตลาด เพราะตรงนี้ชาวตลาดระแหงอยู่กันมาตั้งแต่รุ่นทวด โดยยังอนุรักษ์ชุมชนดั้งเดิมไว้จนได้รับรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ในตลาดมีร้านขายอุปกรณ์จับสัตว์น้ำอายุกว่า 90 ปี ร้านขายยาจีนและยาแผนโบราณ ร้านตัดผมรุ่นคุณปู่ ร้านขายอุปกรณ์การเกษตรก็ยังอยู่ มีทั้งเคียวเกี่ยวข้าว จอบ เสียม ค้อน ตะปู เครื่องใช้ในครัวเรือน ปุ๋ยหมัก หม้อดินเผาหุ้งข้าว หรือร้านอาหารขึ้นชื่อ คือ ร้านแปโภชนา ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ ขายกันมาเกือบ 70 ปีแล้ว นอกจากนี้ที่บ้านของนายเกียรติคุณ สุทธาภิรมย์ นายกเทศมนตรีตำบลระแหง ยังจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณ เปิดให้เข้าชมโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
สวนสนุกดรีมเวิลด์
สวนสนุกดรีมเวิลด์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบึงยี่โถ กิโลเมตรที่ 7 เส้นทางสายรังสิต-นครนายก บริเวณคลองสาม หากเดินทางโดยรถประจำทาง ปอ. 538 (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลฯ) หรือนั่งรถโดยสาร ขสมก.มาลงที่รังสิตแล้วต่อรถสายที่ไปสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลฯ แวะลงที่หน้าดรีมเวิลด์
ดรีมเวิลด์เป็นสวนสนุกและสถานที่พักผ่อนที่รวบรวมความบันเทิงนานาชนิดเข้าไว้ด้วยกันในเนื้อที่กว่า 160 ไร่ ประกอบด้วยดินแดนต่าง ๆ 4 ดินแดน ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีบรรยากาศแห่งความสุข สนุกสนานที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ ดรีมเวิลด์ พลาซ่า ดินแดนที่เต็มไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมอันวิจิตร พิศดารตลอดสองข้างทาง ดรีมการ์เด้น เป็นอุทยานสวนสวยที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงามท่ามกลางความเย็นสบายจากทะเลสาบขนาดใหญ่ และเคเบิ้ลคาร์ ที่จะพาชมความงามของทัศนียภาพในมุมสูง แฟนตาซี แลนด์ เป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย ประกอบด้วย ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา บ้านขนมปัง และบ้านยักษ์ แอดแวนเจอร์ แลนด์ ดินแดนแห่งการผจญภัย และท้าทาย ประกอบด้วย รถไฟตะลุยจักรวาล ไวกิ้งส์ เมืองหิมะ เป็นต้น
อัตราค่าบริการ บัตรผ่านประตู ชาวไทย ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 120 บาท บัตรรวมเครื่องเล่นและค่าผ่านประตู ผู้ใหญ่และเด็ก 395 บาท (เล่นได้รอบเดียว) และ 440 บาท (เล่นได้หลายรอบ) ชาวต่างประเทศ 450 บาท เปิดบริการทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น. เสาร์-อาทิตย์และวันหยุดราชการ เปิดถึง 19.00 น. และมรการแสดงคัลเลอร์ออฟเดอะเวิลด์พาเหรดแสดงทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ วันละ 1 รอบ เวลา 15.45 น.
ตลาดน้ำเมืองรังสิต
ตลาดน้ำเมืองรังสิต ตั้งอยู่ริมคลองรังสิต คลอง 1 ถนนรังสิต-นครนายก อำเภอธัญบุรี ห่างจากศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต เพียง 1 กิโลเมตร ที่ตลาดน้ำมีทั้งหมด 11 แพด้วยกัน และแต่ละแพได้ตั้งชื่อแพ เป็นดอกบัวพันธุ์ต่าง ๆ อาทิ ปุทมา บุณฑริก เป็นต้น มีทั้งหมด 11 แพด้วยกัน โดยแพที่ 1-2 จัดแสดง นิทรรศการการบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่อดีต ประวัติความเป็นมา วิถีชีวิตของชุมชนริม ฝั่งคลองรังสิตประยูรศักดิ์ แพที่ 3 จัดจำหน่ายสินค้าโอทอป จากชุมชนในเขตเทศบาลเมืองรังสิต อาทิ น้ำมันมะพร้าว ขี้ผึ้งสมุนไพร แพที่ 4-10 จำหน่ายอาหารคาวหวานมากมาย โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวเรือเมืองรังสิตที่ขึ้นชื่อมานาน และแพที่ 10 เป็นการบริการนวดแผนไทย โดยกลุ่มแม่บ้านในเขตเทศบาลเมืองรังสิตที่ได้ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี
ตลาดน้ำรังสิต เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00-17.00 น.
อนุสรณ์สถานแห่งชาติ
อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ตั้งอยู่ที่ตำบลคูคต บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตบรรจบกับถนนพหลโยธิน สามารถใช้บริการรถประจำทางสาย 29, 34, 39, 59, 95, ปอ. 503, ปอ. 504, ปอ. 510, ปอ. 513, ปอ. 524, ปอ. 529 และ ปอ. 539 มีเนื้อที่ประมาณ 38 ไร่ ในความดูแลของกรมยุทธศึกษาทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด เป็นทั้งอนุสรณ์สถานเทิดทูนวีรกรรมบรรพบุรุษไทยที่ได้ใช้สติปัญญา ความสามารถตลอดจนเลือดเนื้อและชีวิตเข้าปกป้องผืนพสุธามาตุภูมิแห่งนี้ไว้ และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยตลอดจนเหตุการณ์รบครั้งสำคัญของไทย และสงครามที่กองทัพไทยได้ไปปฏิบัติการรบในต่างประเทศ อาทิ สงครามเวียดนาม สงครามเกาหลี โดยใช้หุ่นจำลองเหตุการณ์ และภาพถ่าย มีห้องจัดแสดงวิวัฒนาการเครื่องแบบเครื่องหมายยศของทหารทุกยุคสมัย ดินจากสมรภูมิรบที่สำคัญ ด้านหน้าอาคารประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 แกะสลักด้วยหินอ่อนขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง และที่น่าสนใจมากคืออาคารภาพปริทัศน์แสดงภาพจิตรกรรมอันงดงามบนผนังโค้งวงกลม เรื่องราวจากสมัยสุโขทัยถึงปัจจุบันประกอบเสียงคำบรรยาย รวมความยาวโดยรอบถึง 90 เมตร ด้านนอกจัดแสดงวัตถุยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ที่ปลดประจำการ เปิดให้เข้าชมวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 09.00-12.00 น.และ 13.00-15.00 น.
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ
พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองหนึ่ง ถนนพหลโยธิน กิโลเมตรที่ 46-48 ตรงข้ามนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ประกอบด้วย กลุ่มอาคารพิพิธภัณฑ์ 9 อาคาร มีทางเดินเชื่อมต่อกัน จัดแสดงเรื่องราวทางการเกษตรผ่านเทคโนโลยีทันสมัย และหุ่นจำลอง ครอบคลุมเนื้อหางานการเกษตรทุกด้าน ได้แก่ การพัฒนาที่ดิน ป่าไม้ ประมง ปศุสัตว์ ระบบนิเวศ ส่วนด้านนอกมีเรือนเพาะปลูก แปลงนาสาธิต และจำลองสภาพความเป็นอยู่ของเกษตรกรทุกภูมิภาคของไทย นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์ฝึกอบรม ศูนย์ประชุมสัมมนาด้านวิชาการเกษตร และยังเป็นแหล่งการศึกษาทางด้านโครงการพระราชดำริ เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ปิดวันจันทร์ เวลา 09.30–15.30 น. ไม่เก็บค่าเข้าชม
หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ
หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชสมบัติครบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2539 กรมศิลปากรได้ทำการจัดตั้งหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นสิ่งอนุสรณ์เฉลิมพระเกียรติ ด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 720.4 ล้านบาท ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า "หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช"
หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ตั้งอยู่บนพื้นที่ 75 ไร่ อาคารก่อสร้างเป็นแบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ สมัยรัชกาลที่ 9 ตั้งอยู่ ณ ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีลักษณะเป็นกลุ่มอาคาร 4 ส่วน มีทางเชื่อมและลานเอนกประสงค์รวมพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย
อาคารส่วนที่ 1 อาคารเก็บเอกสารจดหมายเหตุ เป็นอาคาร 9 ชั้น มีพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร
อาคารส่วนที่ 2 อาคารให้บริการค้นคว้า มีพื้นที่ 4,500 ตารางเมตร
อาคารส่วนที่ 3-4 อาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจและโครงการในพระราชดำริมีพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร
ลานเอนกประสงค์ เป็นส่วนจัดกิจกรรม มีพื้นที่ 3,500 ตารางเมตร
อาคารทั้ง 4 อาคารในหอจดหมายเหตุแห่งชาติแห่งนี้ ทางกรมศิลปากรต้องการให้เป็นหอสมุดจดหมายเหตุแห่งชาติที่สมบูรณ์ที่สุด ในการเก็บรวบรวมเอกสารสำคัญของชาติเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการศึกษา ค้นคว้า วิจัยให้แก่หน่วยงานราชการ เอกชน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป อำนวยประโยชน์ในการรวบรวมจัดเก็บจัดแสดง ให้บริการสืบค้นและอนุรักษ์เอกสารที่เกี่ยวเนื่องในพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ อาทิ พระราชหัตถเลขา พระบรมราโชวาท พระราชดำรัส พระราชนิพนธ์ ภาพเขียนฝีพระหัตถ์ พระบรมฉายาลักษณ์ แถบบันทึกพระสุรเสียง ฯลฯ ตลอดจนเอกสารการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการเฉลิมพระเกียรติต่าง ๆ หอจดหมายเหตุแห่งชาติแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ให้ความรู้ และให้เยาวชนรุ่นหลังได้ซาบซึ้งถึงพระปรีชาสามารถในการปกครองแผ่นดิน รวมไปถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์
หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ตั้งอยู่บนพื้นที่ 75 ไร่ อาคารก่อสร้างเป็นแบบสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ สมัยรัชกาลที่ 9 ตั้งอยู่ ณ ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีลักษณะเป็นกลุ่มอาคาร 4 ส่วน มีทางเชื่อมและลานเอนกประสงค์รวมพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย
อาคารส่วนที่ 1 อาคารเก็บเอกสารจดหมายเหตุ เป็นอาคาร 9 ชั้น มีพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร
อาคารส่วนที่ 2 อาคารให้บริการค้นคว้า มีพื้นที่ 4,500 ตารางเมตร
อาคารส่วนที่ 3-4 อาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจและโครงการในพระราชดำริมีพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร
ลานเอนกประสงค์ เป็นส่วนจัดกิจกรรม มีพื้นที่ 3,500 ตารางเมตร
อาคารทั้ง 4 อาคารในหอจดหมายเหตุแห่งชาติแห่งนี้ ทางกรมศิลปากรต้องการให้เป็นหอสมุดจดหมายเหตุแห่งชาติที่สมบูรณ์ที่สุด ในการเก็บรวบรวมเอกสารสำคัญของชาติเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการศึกษา ค้นคว้า วิจัยให้แก่หน่วยงานราชการ เอกชน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป อำนวยประโยชน์ในการรวบรวมจัดเก็บจัดแสดง ให้บริการสืบค้นและอนุรักษ์เอกสารที่เกี่ยวเนื่องในพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ อาทิ พระราชหัตถเลขา พระบรมราโชวาท พระราชดำรัส พระราชนิพนธ์ ภาพเขียนฝีพระหัตถ์ พระบรมฉายาลักษณ์ แถบบันทึกพระสุรเสียง ฯลฯ ตลอดจนเอกสารการดำเนินงานตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการเฉลิมพระเกียรติต่าง ๆ หอจดหมายเหตุแห่งชาติแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ให้ความรู้ และให้เยาวชนรุ่นหลังได้ซาบซึ้งถึงพระปรีชาสามารถในการปกครองแผ่นดิน รวมไปถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์
ศูนย์บริการการกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ศูนย์บริการการกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีจุดกำเนิดมาจากการก่อสร้างสนามกีฬาเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งมีการก่อสร้างอาคารขึ้นมาเพื่อรองรับเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นอาคารที่พักนักกีฬา จำนวน 5,000 ยูนิต สนามกีฬา อาคารสระว่ายน้ำ อาคารยิมเนเซียม ทั้งหมด 7 อาคาร ซึ่งปัจจุบันได้ทำการปรับปรุง เพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย อาทิเช่น อาคารยิมเนเซียม 3 ได้ปรับปรุงให้เป็นสถานที่ตั้งของศูนย์บริการการกีฬา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น
ศูนย์บริการการกีฬา เป็นหน่วยงานที่แยกส่วนของการกีฬาออกจากสำนักงานจัดการทรัพย์สิน เนื่องจากมีสภาพในการทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งในส่วนของศูนย์บริการการกีฬานั้น มีพันธกิจหลัก คือการจัดให้มีกิจกรรมด้านการกีฬาและการออกกำลังกายอย่างหลากหลายและทั่วถึงรวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลากร นักศึกษา คณาจารย์ และประชาชนทั่วไปสามารถใช้สนามกีฬาได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับการกีฬาของประเทศในทุก ๆ ด้าน
ศูนย์บริการการกีฬา เป็นหน่วยงานที่แยกส่วนของการกีฬาออกจากสำนักงานจัดการทรัพย์สิน เนื่องจากมีสภาพในการทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งในส่วนของศูนย์บริการการกีฬานั้น มีพันธกิจหลัก คือการจัดให้มีกิจกรรมด้านการกีฬาและการออกกำลังกายอย่างหลากหลายและทั่วถึงรวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลากร นักศึกษา คณาจารย์ และประชาชนทั่วไปสามารถใช้สนามกีฬาได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับการกีฬาของประเทศในทุก ๆ ด้าน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)